การประยุกต์ Google Search กับการเรียนการสอน

 Google Search โปรแกรมที่ช่วยในการสืบค้นหาข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต โดยครอบคลุมทั้งข้อความ รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว เพลง ซอฟต์แวร์ แผนที่ ข้อมูลบุคคล กลุ่มข่าว และอื่น ๆ ซึ่งแตกต่างกันไปแล้วแต่โปรแกรมหรือผู้ให้บริการแต่ละราย. เสิร์ชเอนจินส่วนใหญ่จะค้นหาข้อมูลจากคำสำคัญ (คีย์เวิร์ด) ที่ผู้ใช้ป้อนเข้าไป จากนั้นก็จะแสดงรายการผลลัพธ์ที่มันคิดว่าผู้ใช้น่าจะต้องการขึ้นมา ในปัจจุบัน เสิร์ชเอนจินบางตัว เช่น กูเกิล จะบันทึกประวัติการค้นหาและการเลือกผลลัพธ์ของผู้ใช้ไว้ด้วย และจะนำประวัติที่บันทึกไว้นั้น มาช่วยกรองผลลัพธ์ในการค้นหาครั้งต่อ ๆ ไป
การนำ Google Search  มาประยุกต์ใช้ในการสอน  Google  Search  เป็นเครื่องมือในการสืบค้นข้อมูลที่คนนิยมใช้มากโดยเฉพาะในเรื่องของการศึกษา  Google  Search  ใช้ได้ทั้งผู้สอนและผู้เรียนโดยตรง  ซึ่งผู้สอนอาจจะใช้ในการสืบค้นหาข้อมูลในการทำงาน  ส่วนผู้เรียนจะใช้สืบค้นข้อมูลในการเรียน  ผู้เรียนสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการเรียนได้ ทั้งเรื่องสืบค้นหาข้อมูลหรือแสวงหาความรู้  หาข้อมูลในสิ่งที่สนใจได้ 
Google  Search  จึงนับเป็นอีกหนึ่งเว็บไซต์ดีดีที่ช่วยส่งเสริม พัฒนาครูและนักเรียน ในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของครูในการจัดการเรียนรู้ ในยุคปฏิรูปการศึกษา   ซึ่งส่งผลต่อการพัฒนาผู้เรียนให้ทันการเปลี่ยนแปลงในยุคโลกาภิวัตน์และสังคมแห่งยุค  ICT


เทคนิคการค้นหาข้อมูลด้วย Google ที่ควรทราบ

        การค้นหาโดยทั่วไปส่วนใหญ่แล้วจะใช้ Keyword เป็นเครื่องมือในการนำทางการค้นหาอย่างเดียว แต่ถ้าผู้ใช้รู้จักใช้เครื่องหมายบางตัวร่วมด้วย ก็จะทำให้ขอบเขตการค้นหาของ Google แคบลง ทำให้ผู้ใช้ได้ข้อมูลที่ตรงกับความต้องการมากขึ้น เครื่องหมายที่สามารถนำมาช่วยในการค้นหาได้ มีดังนี้

1.การใช้เครื่องหมายบวก (+) เชื่อมคำ
   โดยปกติ Google จะไม่ใส่ใจในในการค้นหาข้อมูลจากการพิมพ์ Keyword ประเภท Common Word( คำง่ายๆ ) เช่น at, with, on, what, when, where, how, the, to, of แต่เนื่องจากเป็นบางครั้งคำเหล่านี้เป็นคำสำคัญของประโยคที่ผู้ใช้จำเป็นต้องค้นหา ดังนั้นเครื่องหมาย + จะช่วยเชื่อมคำ โดยมีเงื่อนไข ว่า ก่อนหน้าเครื่องหมาย + ต้องมีการเว้นวรรค 1 เคาะด้วย เช่น หากต้องการค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับ   เกมส์ที่มีชื่อว่า  Age of Empire ถ้าผู้ใช้พิมพ์ Keyword Age of Empire Google  ก็จะทำการค้นหาแยกคำโดยไม่สนใจคำว่า of และจะค้นหาคำว่า Age หรือ Empire เพียงสองคำ แต่ถ้าผู้ใช้ระบุว่า Age +of Empire Google จะทำการค้นหาทั้งคำว่า Age, of และ Empire


ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (+)

2.ตัดบางคำที่ไม่ต้องการค้นหาด้วยเครื่องหมายลบ ( - )
ช่วยให้ผู้ใช้สามารถตัดเรื่องที่ผู้ใช้ไม่ต้องการ เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการ ล่องแก่ง แต่ไม่ต้องการ การล่องแก่งที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดตาก ให้ผู้ใช้พิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง -ตาก (เช่นเดียวกับเครื่องหมาย+ต้องเว้นวรรคก่อนหน้าเครื่องหมายด้วย) Google จะค้นหาเว็บไซต์เกี่ยวกับล่องแก่งแต่ไม่มีจ.ตากเข้ามาเกี่ยวข้อง




ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข (-)


3.การค้นหาด้วยเครื่องหมายคำพูด ("...")
          เหมาะกับค้นหาคำ Keyword ที่มีลักษณะเป็น ประโยควลีหรือกลุ่มคำ ที่ผู้ใช้ต้องการให้แสดงผลทุกคำในประโยคไม่แยกคำ เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการหาเว็บไซต์เกี่ยวกับเพลงที่มีชื่อว่า If I Let You Go ให้พิมพ์ว่า " If I Let You Go"   Google จะทำการค้นหาประโยค " If I Let You Go" ทั้งประโยคโดยไม่แยกคำค้นหา



ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข   ("...")

4.การค้นหาด้วยคำว่า OR
          เป็นการสั่งให้ Google ค้นหาข้อมูลเพิ่มมากขึ้น เช่น ถ้าผู้ใช้ต้องการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ การล่องแพ ทั้งในจังหวัดตาก  และกาญจนบุรี   ให้ผู้ใช้พิมพ์ Keyword ว่า ล่องแก่ง ตาก OR กาญจนบุรี Google จะทำการค้นหาเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการล่องแก่งทั้งในจังหวัดตาก และกาญจนบุรี




ตัวอย่างการใช้เงื่อนไข OR

5.ไม่ต้องใช้คำว่า " AND" ในการแยกคำค้นหา
          แต่เดิมการใช้ Keyword ที่มากกว่า 1 คำในการค้นหาเว็บไซต์แบบแยกคำ ผู้ใช้จำเป็นต้องใช้ AND ในการแยกคำเหล่านั้นครับ ปัจจุบันไม่ต้องใช้ AND แล้วครับ เพราะ Google จะทำการแยกคำให้โดยอัตโนมัติเมื่อผู้ใช้ทำการเว้นวรรคคำเหล่านั้น เช่น ถ้าผู้ใช้พิมพ์คำว่า Thai Travel Nature เมื่อคลิกปุ่มค้นหา ก็จะพบว่าในรายชื่อหรือเนื้อหาของเว็บที่ปรากฏจะมีคำว่า Thai ,Travel และ Nature อยู่ในนั้นด้วย



ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข AND



6.Googleจะไม่ใส่ใจใน Common Word
          คำศัพท์พื้นๆ อย่าง the, where, is, how, a, to และอื่นๆ รวมทั้งตัวเลขและตัวอักษรเดี่ยวๆ Google มักไม่ให้ความสำคัญและใส่ใจที่จะค้นหา  เนื่องจากเครื่องมือที่ Google ใช้จัดเก็บและรวบรวมเว็บทั่วโลกจะค่อนข้างเสียเวลาในการเก็บรวบรวมเว็บที่มีคำเหล่านี้ (ซึ่งมีเยอะมากๆ) แต่ถ้าหากจำเป็น ผู้ใช้จะต้องใช้เครื่องหมาย " + " ในการเชื่อมคำเหล่านี้ด้วยครับ หรืออีกทางก็คือผู้ใช้อาจจะระบุคำที่ต้องค้นหาทั้งหมดในรูปของวลีภายใต้เครื่องหมาย " ……. " 




ภาพตัวอย่างการใช้เงื่อนไข Common Word

วิธีค้นหารูปภาพ
          ความสามารถที่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ชอบกันนักหนา และสร้างชื่อให้กับ Google ก็คือการค้นหารูปภาพด้วย Google Search  วิธีการใช้ก็คือคลิกเมนูลิ้งค์ รูปภาพ จากนั้นก็พิมพ์ชื่อภาพที่ต้องการค้นหา และคลิกปุ่มค้นหารูปภาพ ดังรูป

1.        หากต้องการหารูปภาพการ์ตูน  ให้พิมพ์คำว่า  การ์ตูน  แล้วกดค้นหา


2.  จะปรากฏรูปภาพทั้งหมดที่ต้องการดังรูป